“ลา ตูค์ อิฟเฟล” (La Tour Eiffel) ในภาษาฝรั่งเศส หรือ หอไอเฟล ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส
หอไอเฟลเป็นหอคอยสร้างด้วยโครงเหล็ก สูงถึง 300
เมตร ตั้งอยู่บนถนน ชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส
หอคอยแห่งนี้เป็นเสมือนสัญญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ
คือ“กุสตาฟ ไอเฟล” เป็นวิศวกรและสถาปนิกชาวฝรั่งเศส
เป็นปรมาจารย์ในด้านการก่อสร้างด้วยเหล็กและมีความสามารถในการสร้างสะพาน
เป็นต้นว่า สะพานข้ามแม่น้ำดูโร (Douro) ในตอนเหนือของประเทศโปรตุเกส
ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสะพานที่มีช่วงกว้างที่สุดในเวลานั้น
ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นงานศิลปะชิ้นเอกในงานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพในปี
ค.ศ.1890 เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 100 ปี
แห่งการปฏิวัติประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ ความร่ำรวย
และความสำเร็จในยุคอุตสาหกรรมของประเทศ
ความคิดที่จะสร้างหอคอยสูงนี้เกิดจาก
การที่ฝรั่งเศสรู้สึกว่าถูกบั่นทอนทางจิตใจที่พ่ายแพ้ต่อกองทัพเยอรมัน ในปี 1870 จึงคิดหาหนทางที่จะจัดงานเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่และความร่ำรวยของประเทศ
และ เพื่อเรียกความภูมิใจกลับมา และเนื่องจากในยุคนั้นฝรั่งเศสประสบความสำเร็จในภาคอุตสาหกรรม
จึงนำเสนอความสำเร็จทางวิศวกรรม นั่นคือการสร้างหอคอย
ซึ่งในอดีตไม่เคยมีใครสร้างหอคอยที่สูงกว่า 1000 ฟุต
แม้กระทั่งในสหรัฐอเมริกายังเคยมีการออกแบบไว้ แต่ไม่เคยสร้าง ดังนั้น
ฝรั่งเศสจึงได้ทำการจัดประกวดออกแบบหอคอยขึ้น และแบบที่ถูกเลือกนั้น คือแบบของ
เวอร์ริส คล็อกลิน ซึ่งเป็นวิศวกรในคณะของ กุสตาฟ ไอเฟล
การที่มีชื่อของ กุสตาฟ ไอเฟล
อยู่นั้นเป็นเครื่องรับประกันว่างานจะประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากว่า กุสตาฟ
ไอเฟล เป็นทั้งสถาปนิกและวิศวกรที่มีเงินทุน และมีชื่อเสียงอยู่ในระดับชั้นนำของประเทศฝรั่งเศส
และมีสายสัมพันธ์ทางการเมืองและสังคมในฝรั่งเศส เริ่มแรกแบบของหอคอย
มีลักษณะเป็นช่อดอกไม้โค้ง และมีประติมากรรมเล็กๆ น้อยๆ แต่กุสตาฟ ไอเฟล
ได้เพิ่มความเป็นตัวเขาเข้าไปในแบบและตกแต่งเพิ่มเติม 28 กุมภาพันธ์
ค.ศ. 1887 การเริ่มสร้างหอคอยเริ่มดำเนินการตามแบบร่าง
โดยใช้เหล็กและเหล็กแผ่นทั้งหมด 18,000 ชิ้น ยึดด้วยหมุด 2,500,000
ตัว
ภาพวิวัฒนาการการก่อสร้างหอไอเฟล
ในสมัยนั้น หอไอเฟลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก
เนื่องจากมีการออกแบบการก่อสร้างที่มีความผิดแผกแตกต่างจากการสิ่งก่อสร้างในอดีต
ไม่เข้ากับอาคารบ้านเรือนและโบสถ์เก่าแก่ในเมือง ดูแล้วไร้ซึ่งความเป็นศิลปะ
และทำลายทัศนียภาพของกรุงปารีส ถึงกับถูกศิลปินแขนงต่างๆ ประณามว่า “หอไอเฟลคือความอัปลักษณ์บนใบหน้าของปารีส” เลยทีเดียว
แต่ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและยาวนาน
ชาวบ้านก็ชื่นชอบหอไอเฟลมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดออกมาโห่ร้องให้กำลังใจ
ตอนที่กุฟตาฟ ไอเฟล เดินขึ้นบันได 1,710 ขั้น
เพื่อนำธงชาติฝรั่งเศสไปประดับไว้บนยอดสูงสุดของหอคอย (และแน่นอนว่าเขาเป็นคนแรกที่เดินขึ้นไป!)
จากตอนแรกที่รัฐบาลตั้งใจว่าจะจัดแสดงศิลปะเอกชินนี้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น
แบบว่าจบงานแล้วก็รื้อทิ้ง
กลายเป็นว่าสุดท้ายทางการสื่อสารมวลชนของประเทศก็ตัดสินใจให้เก็บหอไอเฟลไว้ใช้เป็นสถานีรับส่งสัญญาณวิทยุ
ต่อมามีการสร้างศูนย์วิทยุขึ้นอย่างถาวร และยังคงใช้มาถึงปัจจุบันนี้
ในที่สุดงานศิลปะชั่วคราวก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกเป็นเวลากว่า
40 ปี (ค.ศ. 1889-1930) และเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก!
ในการก่อสร้างหอคอยแห่งนี้ ใช้คนงานก่อสร้างถึง 300 คน เพื่อประกอบเหล็กจำนวน 18038 ชิ้นเข้าด้วยกัน โดยใช้หมุดถึง 2.5 ล้านตัว
ความเสียงที่จะเกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างสูงมาก
เนื่องจากหอไอเฟลแตกต่างจากตึกสูงในปัจจุบันตรงที่เป็นหอเปลือย ไม่มีจำนวนชั้น
อย่างไรก็ตามมีการเตรียมตัวรักษาความปลอดภัยในการก่อสร้างอย่างเต็มที่
ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในการก่อสร้างเพียงคนเดียวเท่านั้นหอไอเฟลสร้างเสร็จ และมีพิธีเปิดวันที่ 31
มีนาคม 2432 และกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนอนุสาวรีย์วอชิงตัน
จนกระทั่งเสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047
ฟุต) ไปในปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930)
หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดในกรุงปารีส ถ้าเปรียบเทียบกับตึกแล้วจะมีประมาณ 75 ชั้น
หอไอเฟลแกว่งตัวได้ตามแรงลม แกว่งได้ถึง 6-7
เซนติเมตร!
จุดถ่ายรูปหอไอเฟลที่ดีที่สุด คือ ลานหน้าปราสาท Palais
de Chaillot ใกล้ๆ กับสถานี Trocadéro จากมุมนี้
จะเห็นภาพหอไอเฟลแบบเต็มจอ ไม่มีต้นไม้ เสาไฟฟ้าบังให้เสียอารมณ์
(จะมีก็คือคนอื่นๆ ที่เข้ามาปนอยู่ในกล้องเรา) นักท่องเที่ยวแอ็คท่ากันสุดชีวิต
ท่าพิงหอ แบกหอ จับหอ แล้วแต่ใครจะครีเอท เป็นที่เฮฮาของผู้พบเห็นยิงนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น